Nov 16

พอล กับ พอลลีน กำลังนั่งดื่มกาแฟกันอยู่ในขณะที่เสียงกริ่งดังขึ้น
“จดหมาย!”
มินนาเพิ่งเดินเข้ามาในห้อง พร้อมหนังสือพิมพ์ยามเช้าและจดหมายฉบับหนึ่ง
มันถูกจ่าหน้าซองถึงพอลลีน แต่ตอนนั้นพอลกำลังเปิดมัน

“ใครเขียนถึงชั้นน่ะ” พอลลีนถาม
“คิดว่าใครล่ะ, ใครจะเขียนถึงเธอ?”
“ก็ใครล่ะ จะมีใครอีกที่เขียนถึงพวกเรา”
พอลวางจดหมายลงบนโต๊ะแล้วบอกว่า
“ก็พวก ฮันเนมันส์ น่ะสิ”
“ฮันเนมันส์? เอ๊ะ ฮันเนมันส์ไหนกัน” พอลลีนสีหน้าสงสัย
“ก็ฮันเนมันส์ จาก ฮัลล์ น่ะสิ ที่พวกเรารู้จักเค้าตอนไปพักผ่อนหน้าร้อนไง”
“อ๋อ! ยังมีชีวิตอยู่กันเหรอ, แล้วเค้าเขียนมาทำไม?”
“พวกเค้าอยากจะมาหาพวกเราพรุ่งนี้ เพื่อมากินข้าวเย็น”
“จะให้พวกเค้ามาดีเหรอ!”
“หมายความว่าไง, จะให้พวกเค้ามาดีเหรอ” พอลตะคอก “ทำไมพวกเค้าถึงมา?
พวกเค้าต้องการอะไร? แน่นอนต้องไม่ใช่อาหารเย็นถูก ๆ นั่นแล่ะที่พวกเค้าต้องการ!
พวกนี้น่ะเป็นเพื่อนของเธอ” พอลตะโกนเสียงดัง
“เพื่อนฉันที่ไหนกัน เธอก็รู้จักพวกเค้าดีเท่า ๆ ฉันนะ”
“ก็แล้วใครล่ะที่ไปพูดกับยายผู้หญิงนั่นก่อน”
“ฉันน่ะแหละ แต่ว่าก็เพราะว่าเธอรู้จักกับผู้ชายคนนั้นนะ”
“แค่เพราะว่าฉันรู้จักกับผู้ชาย ก็ไม่ใช่ว่าเธอต้องไปเป็นเพื่อนที่ดีกับทั้งครอบครัวนั้นหรอก
อีกหน่อยเธอก็ต้องไปเป็นเพื่อนกับเมียของผู้ชายที่ฉันให้ยืมไฟแช็คบนถนน แล้วก็ขอให้พวกนั้น
มากินข้าวเช้าที่บ้าน อ้อ แล้วอย่าลืมติดป้ายหน้าบ้านด้วยนะว่า ข้าวกลางวันฟรีสำหรับทุกคน
เพราะผัวฉันเป็นคนจ่าย!” พอลร่ายยืดยาวด้วยความโมโห “แต่ว่านะ พอลลีน ครั้งนี้เธอผิดไป
จะบอกให้ว่า ฉันไม่มีเงินจะให้เธอ คงต้องดูแลแขกของเธอให้กินอาหารดี ๆ เองแล้วล่ะ”

พอลลีนร้องไห้ไปซับน้ำตาไป แล้วก็เดินเข้าไปในครัว
“มินนา!” เธอส่งเสียงร้องเรียก “ช่วยมานี่หน่อยนะ”
“วันพรุ่งนี้เราจะมีแขกมาทานอาหารเย็น เธอมีเงินบ้างไหม” มินนาก็ตอบด้วยคำตอบปกติ
ของสาวใช้ “ไม่มีเลยค่ะ เหลือแค่เศษเหรียญนิดหน่อยเอง”

“งั้นเราคงต้องทำอาหารง่าย ๆ แล้วค่ะ คงจะเป็นไส้กรอกคนละคู่สำหรับทุกคน
ฉันจะอธิบายอะไรให้เธอฟังนะ เย็นพรุ่งนี้จะมีห่านด้วย ก่อนที่เธอจะยกจานสำหรับไส้กรอก
ออกไปเสริฟ ให้เธอทำจานหล่น แล้วก็ร้องไห้โวยวาย ฉันจะเข้ามาในครัว
แล้วเราก็ทำเหมือนกับว่าเราทำห่านหล่นลงไปในถังใส่ถ่าน แล้วหลังจากนั้น
เธอก็ยกจานไส้กรอกออกไปเสริฟ เข้าใจรึเปล่ามินนา”
“เข้าใจค่ะ คุณนายเฟรมมิ่ง” มินนายิ้มร่า เรื่องแต่งนี้ถูกใจเธอมาก

“ครอบครัว ฮันเนมันส์ มาแล้ว!” มินนาตะโกน ในเย็นของอีกวัน
พอลและพอลลีนรีบวิ่งออกมาต้อนรับ
“ขอบคุณที่มา” พอลยื่นมือออกไปจับทักทายกับทั้งคู่ “เรารู้สึกยินดี
ตั้งแต่ได้รับจดหมายแล้วล่ะ” นายฮันเนมันส์ยื่นดอกไม้เล็ก ๆ
สามดอกให้ “นี่ครับ!”
“ตายแล้ว ไม่จำเป็นเลยจริง ๆค่ะ” พอลลีนรับดอกไม้ แล้วนำไปใส่แจกันใกล้ ๆ มือ
“ทุกคนคงจะหิวกันมากแล้ว ขอให้ผมนำทางไปนะครับ” พอลกล่าว
นายฮันเนมันส์ไม่รอให้พอลพูดเป็นครั้งที่สอง เขารีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
พอไปถึงโต๊ะที่จัดไว้อย่างเรียบร้อย พอลลีนก็นำแจกันดอกไม้ไปตั้งตรงกลาง

“โอ้โห คุณคงลำบากกันมากที่ต้องจัดเตรียมเพื่อพวกเรา!” นายฮันเนมันส์ร้องบอก
“ไม่เลยค่ะ ไม่เลย!”
“คุณจัดเตรียมได้งามมาก!
“เรามีแค่ห่านเท่านั้นล่ะค่ะวันนี้” พอลลีนแสร้งทำเขินอาย
“เห็นมั้ย เอริค!” คุณผู้หญิงจากบ้านฮันเนมันส์พูดอย่างดีใจ
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม เราจะได้ทานอาหารดี ๆ บางทีอาจะเป็นห่าน
แล้วเป็นไง เราจะได้ทานห่านจริง ๆ ด้วย!”
“ฉันดีใจจริง ๆ ค่ะ ที่พวกคุณชอบทานห่าน” พอลลีนยิ้ม และยกกระดิ่งเรียกเด็กสาวรับใช้
ซึ่งรู้ว่าควรจะเริ่มงานได้แล้ว

มินนา เด็กสาวรับใช้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในครัว ไม่มีห่านตัวใหญ่หรืออะไรทั้งสิ้น
เธอถือจานที่ว่างปล่าวในมือข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งเป็นจานใส่ไส้กรอกสี่คู่
เธอกำลังจ้องไปที่ถังถ่านแล้วนึกถึงเรื่องที่ต้องทำ แล้วเสียงกริ่งก็ดังขึ้น

ในห้องอาหาร ทุกคนกำลังคลีผ้าเช็ดมือออก พอลลีนสั่นกระดิ่งอีกรอบ
ในตอนนั้นเองที่ทุกคนได้ยินเสียงจานหล่นกระทบพื้น และเสียงร้องโวยวาย
ดังออกมาจากในห้องครัว
“โอ๊ยตายแล้ว! ห่าน!” พอลลีนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งเข้าไปในครัว
พร้อมกับตะโกนออกไป “มินนา, มินนา! เกิดอะไรขึ้น เธอทำอะไรหล่น?
เธอทำจานใส่ห่านหล่นรึเปล่า?”

มินนาร่ำไห้ และร่ำไห้ อย่างที่ได้เตี๊ยมกันไว้
“มันเป็นเรื่องที่แย่จริง ๆ ค่ะ” พอลลีนกล่าวกับพวกฮันเนมันส์
“วันนี้เราคงไม่ได้ทานห่านกันแล้วค่ะ มีเหลือแค่ไส้กรอกอุ่น ๆ คนละคู่เท่านั้น
เฮ้อ! แย่จริง ๆ , มินนาออกมานี่เร็ว!”
มินนา ค่อย ๆ เดินออกจากประตูห้องครัวอย่างขลาดเขลา พอลลีนรู้สึก
ถูกใจเด็กมินนาเป็นยิ่งนัก ช่างแสดงละครได้แนบเนียนดีแท้
“เธอทำอะไรตก มินนา?” พอลลีนส่งเสียงเครียดถาม
มินนาร้องไห้ สะอึกสะอื้นและไม่ยอมตอบคำถาม
“เธอทำอะไรตกใช่ไหม มินนา”
“ใช่ค่ะ” มินนาสะอื้นไห้
“ทำตกลงที่ไหน?”
“ตกลงในถังใส่ถ่านค่ะ คุณนาย”
“ห่านใช่มั้ยมินนา ที่เธอทำตก”
สิ้นคำถามของพอลลีน มินนาร้องไห้ดังขึ้น และดังขึ้น เธอพูดเสียงปนสะอื้นว่า
“ไม่ใช่ห่านค่ะคุณนาย แต่เป็นไส้กรอก”

——————–

“เรื่องของห่าน” เขียนโดย Jo Hanns Roesler
ซึ่งมดนำมาแปล เพราะเป็นภาษาเยอรมันที่มดกำลังหัดอ่าน 
ขอแจ้งไว้ ณ ที่นี้ว่า งานแปลชิ้นนี้ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อการค้าแต่อย่างใด
แปลขึ้นโดยไม่ได้ขอลิขสิทธิ์ แต่ทดลองแปลเพื่อทำความเข้าใจในภาษาเท่านั้น
ไม่อนุญาติให้ทำการทำซ้ำหรือเผยแพร่ เพราะจะผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ของเจ้าของหนังสือค่ะ 

2 Responses to “เรื่องของห่าน”

  1. เจ๊กอ Says:

    เรื่องสั้นแนวนี้ พล็อตตะวันตกมาก
    ถ้าแปลงเป็นไทย มันจะไม่ลื่นหักมุขเท่า
    มดแปลให้เนียนดีนะ ตอนแรกนึกว่ามดเขียนเอง ฮ่าๆ

    บทสนทนาช่างเหมือนเรื่องเล่าในครอบครัวจริงๆ
    อ่านไม่ดี นึกว่าอ้วนและมดเปลี่ยนชื่อเป็นพอลกับพอลลีน

  2. Mod-x Says:

    เจ๊ ตอนมดแปลน่ะ ก็เผลอนึกว่าเป็นเรื่องของตัวเอง
    มันเลยอ่านลื่นไหล ปรู๊ดปร๊าดมาก ๆ เลย อิอิ

Leave a Reply