Mar 18

11 มีนาคม 2554 เกิดแผ่นดินไหวที่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น วัดความรุนแรงได้สูงสุดถึง 8.9 ริกเตอร์ และส่งผลให้เกิดสึนามิตามมา พูดกันจริง ๆ ว่าถ้าประเทศไทยไม่เคยโดนผลกระทบเมื่อครั้ง 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) – เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เราก็อาจจะไม่อินถึงความรุนแรงของสึนามิขนาดนี้ก็ได้ .. นี่มดหมายถึงว่า พอคนไทยได้ยินคำว่า “สึนามิ” แล้วจะจินตนาการเห็นได้แบบฉับพลันถึงคลื่นยักษ์ที่ซัดและพัดพาทุกอย่างให้ราพนาสูรน่ะ

พูดกันจริง ๆ มดเองก็เพิ่งจะรู้จัก “สึนามิ” ก็ตอนปี 2547 นั่นแหละ คลื่นยักษ์ที่สูงเท่าตึก 3-4 ชั้น เหมือนเงื้อมมือของมัจจุราช สะบัดเพียงแผ่วเบาก็พาทุกอย่างย่อยยับ การที่เรามีเทคโนโลยีของการบันทึกภาพ ทำให้ไม่ต้องนั่งสงสัยไปชั่วชีวิตว่า คลื่นทะเลที่สูงขนาดนั้น ที่ทำลายได้ขนาดนั้นมันมึจริง ๆ ใช่หรือไม่ — ด้วยความเอื้อเฟื้อของคนใกล้ตัวได้อธิบายให้มดฟังว่า ปรากฎการสึนามินั้น ก็คือปรากฎการเคลื่อนย้ายตัวของเปลือกโลก หรือที่เราเรียกว่าแผ่นดินไหว — สึนามิ คือการที่โลกใต้ผิวน้ำเคลื่อนตัวหรือแผ่นดินไหวอยู่ใต้น้ำ ทำให้น้ำทะเลกระเพื่อมเป็นคลื่นยักษ์ — เป็นปรากฎการณ์ที่เข้าใจได้ถ้าศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องปลาอานนท์-ปลาดุกยักษ์ขยับตัว หรือแม้แต่เป็นคำสาปใด ๆ

แผ่นดินไหว ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทุกคนที่ได้ศึกษาภูมิศาสตร์ ย่อมเคยเรียนรู้มาว่าทุกทวีปในโลกนี้ ก่อนหน้านั้นเมื่อนานมาแล้วคือผืนแผ่นดินเดียวกัน เวลาที่พ้นผ่านค่อย ๆ แยกให้พื้นดินแต่ละส่วนแยก-เคลื่อนตัวออกจากกันจนกลายมาเป็น 7 ทวีปในปัจจุบัน นั่นคือผลงานของแผ่นดินไหว ที่ทำให้เรามีศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความคิด ชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน หากเข้าใจดังนี้ เราจะแยกเรื่องความโกรธขึ้งของธรรมชาติที่ต้องการทำลายล้างมนุษย์ออกจากเรื่องแผ่นดินไหวและสึนามิออกไปได้

มดไม่เถียงว่า ทุกวันนี้ธรรมชาติได้ถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ไปมากมายมหาศาลเท่าไหร่ แต่มักจะรับไม่ได้เมื่อมีคนพูดว่า .. “นี่คือเสียงที่โลกกำลังประกาศว่า -ไม่ไหว- แล้ว” .. “ธรรมชาติกำลังบอกอะไรเรา” … “หยุดทำร้ายโลก แล้วโลกจะไม่ทำลายเรา” .. “ทำกับเค้าไว้มาก ถึงทีเค้าเอาคืน” นอกจากจะไม่เกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหว-สึนามิแล้ว ยังบ่งบอกถึงการมักง่ายต่อการบริโภคข่าวสาร ทั้งมักง่ายต่อการรับรู้ความจริงของธรรมชาติ

มดต่อต้านการมักง่ายในเรื่องนี้ เพราะมันทำให้เราพลาดที่จะแก้ไขในแก่นแท้ของเรื่อง “การทำลายธรรมชาติ” ที่แท้จริง เพราะเหมาเอาทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องเดียวโดยไม่ผ่านการวิเคราะห์และกลั่นกรองของสมอง เมื่อเราไม่รู้หรือไม่สนใจที่จะรู้ว่า จริง ๆ แล้ว โลกเรามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นทุก ๆ นาที หรือ สึนามิเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีใครตัดไม้หรือผลิดCO2 เมื่อเราไม่สนใจที่จะรู้ว่า ภาวะโลกร้อนและสึนามิไม่เกี่ยวกัน

เมื่อเรายังเป็นอยู่แบบนี้ ก็อาจจะยังผลิตถุงผ้าออกมา และต่อไปอาจจะประกาศว่า “ใช้ถุงผ้าลดโลกร้อน และ สึนามิ” ก็เป็นได้
(การรณรงค์ใช้ถุงผ้าและผลิตออกมามากมาย เป็นความคิดที่มักง่ายอีกวิธีหนึ่ง)

Mod-x

8 Responses to “โลกร้อน – แผ่นดินไหว?”

  1. แม่พลอย Says:

    ด้วยว่าไม่ค่อยใส่ใจและยอมจะเข้าใจง่าย ๆ กับเรื่องแนว ๆ รักษ์ธรรมชาติ ลดโลกร้อนเท่าไหร่
    เวลาตั้งคำถามกับกลุ่มนักอนุรักษ์มักได้คำตอบแบบว่าเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว…ตอนฟังก็เอออวยนะ พยักหน้างึก งึก อ่อเหรอ จริงเนอะ แต่สามนาทีก็ไม่เข้าใจอีกแล้ว แบบปลาทอง …เข้าใจอย่างเดียวแบบที่ตัวเองอยากจะเ้ข้าใจ เกิด ขึ้น ตั้งอยู่ดับไป

  2. กะ-หนก Says:

    ที่รับไม่ได้กับการจับแพะชนแกะแบบนี้เพราะจะทำให้คนไม่ยอมทำความเข้าใจกับสาเหตุจริงๆ ของแผ่นดินไหว-สึนามิ ใช่มั้ย?

  3. Mod-x Says:

    กะหนก – ที่รับไม่ได้ เพราะว่าสุดท้ายคนไม่เข้าใจว่า ทำไมโลกร้อน ทำไมเกิดภาวะเรือนกระจก – และสุดท้ายคนก็มักง่าย แค่ใช้ถุงผ้า และคิดว่าตัวเอง “ลดโลกร้อน” ได้แล้วน่ะ : )

  4. Alex Says:

    เป็นความคิดเห็นของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เรื่องปัญหาโลกร้อนกับการเกิดแผ่นดินไหวครับ:
    ปริมาณน้ำแข็งมีการละลายมากขึ้น และในที่สุดก็ไหลลงทะเล และมหาสมุทร ซึ่งพื้นที่ทะเล และมหาสมุทรแม้จะมีมากกว่าส่วนที่เป็นพื้นดิน แต่เผอิญ น้ำทะเลทั้งหมดมิได้มีปริมาณที่เท่ากันทั้งโลก แต่ไปถ่วงด้านหนึ่งมากขึ้น โลกอีกด้านหนึ่งมีน้อยกว่า เมื่อน้ำทะเลไปถ่วงด้านหนึ่งมากขึ้น ก็ เกิดสภาวะไม่ สมดุล เป็นเหตุให้โลกแกว่งตัวผิดปกติ มีผลทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก แผ่นเปลือกโลกปรับตัวครั้งใด ก็จะเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนั้นๆ แผ่นเปลือกโลกจะมีรอยร้าวมากขึ้น ขอให้ทุกท่านสังเกตเหตุการณ์ของการเกิดแผ่นดินไหว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณมาก ขึ้น และถี่ขึ้นในทุกพื้นที่ของโลก การเปลี่ยนแปลงของโลกอาจส่งผลกระทบให้แกนขั้วโลกมีการเปลี่ยนแปลง หากขั้วแม่เหล็กโลกมีการเปลี่ยนแปลงกระทันหันหายนะคร ั้งใหญ่ของโลกจะเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
    ที่มา:http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=adf6dedda03c24ee4affc9c8e5e8e5e3&pageid=7&bookID=372&read=true&count=true

  5. เจ๊เอง Says:

    มีผู้คนที่กำลังจะไปญี่ปุ่น รักประเทศญี่ปุ่น ก็มาถามอย่างโกรธๆ ธรรมชาติอีกว่า ทำไมต้องเป็นที่ญี่ปุ่น ประเทศเขาออกจะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกกลุ่มก็โยงไปเรื่อง 2012 โลกมันแตกแน่ๆ เลยกลายว่าเหตุการณ์สร้างศัพท์ใหม่ Japanic ทุกอย่างโยงกันได้หมด

    ส่วนตัวพี่ คิดว่า ถุงยางช่วยโลกร้อนกว่าถุงผ้าเยอะ แม้มันจะทำด้วยพลาสติก (ไม่ได้กวนนะ)

  6. Modx Says:

    Japanic เจ๋งอ่ะเจ๊!!

  7. Color Says:

    เห็นด้วยกับเจ๊ค่ะ เพราะถุงยางช่วยลดประชากรที่จะมาถลุงใช้ทรัพยากรธรรมชาติในอนาคตได้ดีกว่า ถุงผ้าแน่นอน กด like ให้ 1 โป้งค่ะ

  8. Mod-x Says:

    พี่เล็กคะ – เรื่องนี้ทางฝรั่งก็พยายามทำความเข้าใจเช่นกัน แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่า เกิดจาก Climate Change ค่ะ เพียงแต่สรุปอ้อม ๆ ว่า “อาจจะ” ทำให้มันเกิดได้เร็วขึ้น แต่โดยสรุปก็คือ เป็นการเคลื่อนไหวของธรรมชาติ ลองแวะไปอ่านที่นี่นะคะ http://www.grist.org/article/2011-03-11-todays-tsunami-this-is-what-climate-change-looks-like

    เก็บข้อมูลหลาย ๆ ทาง ถือเป็นการนำ Information มาประยุกต์เป็น Knowledge ค่ะ — ขอบคุณข้อมูลของพี่ด้วยนะคะ

Leave a Reply