Feb 28

เมื่อคืนมดฝัน เป็นฝันในไม่กี่ครั้งที่รู้สึกว่าได้ิยินเสียงตัวเองพูดออกไปจริง ๆ ปกติแล้วในฝันบางทีมันจะลางเลือน คลุมเคลือ เห็นหน้าไม่ค่อยชัด ต่อให้รู้ว่าในฝันเป็นใครกับใคร แต่มดจะไม่เห็นหน้าชัด ๆ ไม่ได้ยินเสียงชัด ๆ มันเป็นแค่ความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ แต่ฝันเมื่อคืนมดเห็นตัวเองนั่งคุยกับเพื่อน ในสถานที่สบายแห่งหนึ่ง มดไม่ได้มองหน้าเพื่อนแต่รู้ว่าเพื่อนคนนั้นคือใคร เรานั่งข้าง ๆ กัน แล้วมดก็ได้ยินเสียงตัวเองในฝัน กำลังพร่ำรำพันถึง …. การเดินทาง

ในชีวิตคนเราจะมีเรื่องใหญ่ ๆ ที่เปลี่ยนชีวิตอยู่ไม่กี่เรื่อง หนึ่งในเรื่องนั้นของชีวิตมดคือการเดินทาง ในวันที่อายุยี่สิบปลาย มดออกเดินทางคนเดียวร่วมเดือน ตั้งแต่ภาคเหนือของประเทศ ข้ามไปลาว ต่อไปเวียดนาม แล้วไปจบที่กัมพูชา การเดินทางในครั้งนั้นเปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเปลี่ยนความคิด และวิธีมองโลกของมดไป คล้ายจะชุบให้เรากลายเป็นคนใหม่ … ขนาดนั้นเลย

เพื่อนที่มดนั่งคุยด้วยในฝัน บอกกับมดว่า “ไม่พร้อม” ที่จะเดินทาง ทั้ง ๆ ที่มดมองแล้วมองอีก มองซ้าย มองขวา มองหน้า มองหลัง มองยังไง ๆ ก็ไม่เห็นความ “ไม่พร้อม” ที่ว่า ถ้าจะให้พูดกันแบบกล้าได้กล้าเสีย มดก็อยากจะบอกว่า -ไปทั้ง ๆ ที่ไม่พร้อมนั่นแหละ ดีที่สุด -

เมื่อเวลาผ่านไป หลายคนถามมดว่า คิดยังไงถึงได้ออกเดินทางในครั้งนั้น มดตอบไปว่า “ไม่ได้คิด” เพราะถ้าคิดคงไม่ได้ไป นี่พูดจริง ๆ ไม่ได้เล่นลิ้น กวนประสาท ตอนนั้นมดไม่ได้คิด ไม่ได้วางแผนอะไรซับซ้อน รู้แค่ว่าจะเริ่มต้นได้ที่ไหน แล้วหลังจากนั้นก็ตาม ๆ เค้าไป เพราะเส้นทางที่มดเลือก เป็นเส้นทางของนักเดินทางต่างชาติอยู่แล้ว ใครต่อใครก็มุ่งหน้าเดินทางในสายเดียวกัน เหมือนว่าจะเดินทางคนเดียว แต่ความจริงเรามีเพื่อนร่วมทางเป็นร้อย

การเดินทางสำคัญสำหรับมดมากที่สุดก็คือ สามารถขจัด “ความกลัว” ออกไปจากใจได้ง่ายที่สุด เมื่อเราเดินทางคนเดียว ต่อสู้คนเดียว ส่วนใหญ่เราไม่ได้ต่อสู้กับใคร เรามักจะต้องต่อสู้กับตัวเอง การพาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ ๆ เราไม่เคยไปมาก่อน ไม่มีข้อมูลใด ๆ ไม่รู้จักใคร ไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกับเรา เรื่องราวเหล่านี้จะทำให้เรากระเสือกกระสนหาทางพาตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย และความเหงาจะสอนให้เราทำทุกอย่างเพื่อที่จะผูกมิตรกับคนแปลกหน้า ท้ายที่สุดสถานการณ์หลากหลายจะพิสูจน์ให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้วเราแข็งแกร่งกว่าที่เราคิดมากนัก

มดเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนซ่อนนักผจญภัยตัวจิ๋วไว้ข้างใน เราต้องรอให้ ”พร้อม” ขนาดไหนกันถึงจะออกผจญภัยได้?  นั่นเป็นคำถามที่มดถามเพื่อนออกไป โดยที่ไม่ได้รอฟังคำตอบ มดบอกเพื่อนต่อไปว่า ยิ่งเรารอนานเท่าไหร่ นักผจญภัยตัวจิ๋วตัวนั้นจะยิ่ิงจิ๋วลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดเราจะหาเค้าไม่เจอ และบางทีความพร้อมก็ไม่ใช่ปัจจัยที่เราควรจะนึกถึงก่อนออกเดินทาง บางทีเราควรเตรียมความ “ไม่พร้อม” นี่แหละให้พร้อม

ถ้าในวันนั้นมดพูดภาษาอังกฤษได้ดี มดคงไม่สนุกในการพยายามเีรียนรู้ที่จะฝึกฟังมากกว่าพูด ถ้าในวันนั้นมดมีเงิน มดคงไม่ได้เจอเพื่อนนักเดินทางที่ร่วมแชร์ห้องพักด้วยกันมากหน้าหลายตา และคงไม่ได้มีประสบการณ์ปั่นจักรยานเที่ยวนครวัดภายในวันเดียวเพราะไม่มีเงินเหลือพอจะเช่ารถมอร์เตอร์ไซด์ ถ้าในวันนั้นมดหาข้อมูลการท่องเที่ยวซะพร้อมสรรพ มดคงไม่ได้ไปนั่งถามใครต่อใครว่าจะเดินทางอย่างไร คงไม่ได้ไอเดียดี ๆ จากเพื่อนร่วมเส้นทางถึงที่พักราคาถูกแต่ดี ร้านอาหารอินเดียในซอกหลืบของเมืองเว้ ฯลฯ และถ้าวันนั้นมด “พร้อม” มดคงไม่ได้มีประสบการณ์โดดเดี่ยว เศร้า เหงา กลัว จนเอาชนะมันได้ในตอนหลัง

หลังจากการเดินทางครั้งนั้น มดมักจะแนะนำคนที่รักเสมอว่า จงออกเดินทางกันเถิด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เดินทางคนเดียว เพราะนอกจากจะได้เปิดสมอง เปิดตาให้กว้างขึ้นแล้ว ยังเปิดโอกาสให้รู้จักและเข้าใจตัวเองมากขึ้นไปอีก

ถ้าใครผ่านมาอ่านแล้วรู้ว่าอยากจะออกเดินทางบ้าง แต่ยังรู้สึก “กลัว” และ “ไม่พร้อม” นั่นหมายความว่าถึงเวลาเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เพราะคุณ “พร้อม” แล้วล่ะ

Mod-x

ป.ล. 1  มดจำไม่ได้ว่าสุดท้ายเพื่อนมดตอบว่าอย่างไร เพราะตกใจเสียงเด็กข้างห้องที่ตื่นมาแหกปากตั้งแต่ตีสามเสียก่อน : )
ป.ล. 2 ตอนนี้อยู่บ้านพี่จุ๋ยที่โอ๊คแลนด์

4 Responses to “เดินทาง”

  1. ้hippo Says:

    “ไม่ได้คิด” เพราุะถ้าคิดคงไม่ได้ไป

    ..จริง :) เตรียมตัวมากๆทีไร ไม่หนุกทุกที

  2. nui411 Says:

    “มดมักจะแนะนำคนที่รักเสมอว่า จงออกเดินทางกันเถิด”

    :)

  3. dear&patric Says:

    คิดถึงคุณมดจังค่ะ สบายดีหรือเปล่าคะ

  4. barley* Says:

    อยากไปเหมือนกันค่ะ แต่อยากไปกับใครบางคนที่คงไม่มีโอกาส

Leave a Reply