Archive for the ‘Article’ Category

Nov 01

time-machine-icon

มดเจอเครื่องมือย้อนเวลาเมื่อวานตอนเย็น มันไม่ใช่ลิ้นชักที่โดราเอมอนพาโนปิตะไปเปลี่ยนอดีต แต่มันคือจดหมาย และโปสการ์ดที่มดได้รับตลอด 4 ปีที่อยู่ที่นี่

แม้มันไม่สามารถย้อนเวลาไปช่วงนั้นของเราได้ แต่มันย้อนไปยังช่วงเวลาของคนที่ส่งมาหาเราได้ และหากข้อความเหล่านั้นโยงใยพัวพันมาถึงเรา มันก็ทำให้เราดึงเวลาของเราขึ้นมาได้ด้วยเหมือนกัน

(more…)

Oct 31

เมื่อต้นเดือนตุลาที่ผ่านมา มดและสเตฟานไปลุยอิตาลีกันมา 8 วัน ลุยกันไป 8 เมือง เป็นการเที่ยวบวกทำงาน(เก็บข้อมูล) เราลงไปถึงต้นทางของภาคใต้ คือเมือง Napoli หรือ Naples ถึงยังไม่ได้ลงไปใต้แบบสุด ๆ แต่ก็ได้เห็นความแตกต่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความดิบของภาคใต้จะทำให้เราแขยงขยาด กลับทำให้เราหลงใหลมากกว่าความศิวิไลของเมืองใหญ่ ๆ ทางภาคเหนือเสียอีก

ทิ้งเรื่องของเมืองไว้ก่อน อยากเล่าเรื่องกาแฟมากกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับเรื่องกาแฟของคนอิตาลี แต่เคยได้ยินคนพูดประมาณเปรียบเปรยเกี่ยวกับการถามถึงของหายาก โดยยกเอาเรื่องกาแฟของอิตาลีมาเช่น “ถามแบบนี้ ก็เหมือนถามหาสตาร์บั๊คในอิตาลีน่ะแหละ”  ฟังแบบนี้ก็คิดไปได้แค่ว่า กาแฟของอิตาลีคงอร่อย และคนอิตาลีคงเป็นพวกชาตินิยมไม่ยอมให้ฝั่งอเมริกาตีแตกได้ง่าย ๆ

(more…)

Oct 30

วันนี้เดินทางจากบ้านนอกเข้าไปในเมือง ใช้บริการรถไฟเช่นเคย ได้อ่านหนังสือพิมพ์บนรถไฟฟรี เป็นหนังสือพิมพ์ที่แจกฟรี เมื่อก่อนมีเจ้าเดียวชื่อ 20 Minuten (อ่านว่า สะวันสิก มินูเท่น) แปลว่า “20นาที” เข้าใจว่าแค่ 20 นาทีก็อ่านหมดแล้ว เพราะมีแต่ข่าวสั้น ๆ และพวกบันเทิงเริงรมย์ ตอนนี้มีเพิ่มมาอีกเจ้าชื่อว่า Heute (อ่านว่า ฮ้อยเท่อ) แปลว่า “วันนี้” ออกทุกๆ เย็น ส่วน 20นาที ออกทุกเช้า ทั้งสองเล่มครูบอกว่าเอาไว้ฝึกอ่านภาษาเยอรมันได้ เพราะว่าใช้ศัพท์ไม่ซับซ้อนอะไร

Lauf dich satt!! นี่คือหัวข้อบทความหนึ่งในหน้าของหนังสือพิมพ์ฮ้อยเท่อ เห็นปุ๊บแปลได้ทันที เพราะเป็นคำง่าย ๆ สามคำ แปลเป็นภาษาไทยง่าย ๆ ว่า “วิ่งสิเธอแล้วจะอิ่ม”
(ทำไมแปลเป็นภาษาไทยแล้วยาวนัก หรือเป็นการบ่งบอกว่าคนไทยเยิ่นเย้อ เหรอ?)

(more…)

Oct 29

เพื่อนสเตฟานคนหนึ่งชื่อ โรมาน(Roman) เป็นเพื่อนครูที่โรงเรียน คุณโรมานเป็นครูสไตล์เดียวกับสเตฟาน คือเป็นประเภทที่เด็กแสบ ๆ จะยอมสยบและยกให้เป็นฮีโร่ ว่าง่าย ๆ ก็คือเด็กมองเห็นว่าครูเป็นพวกกัน ว่างั้น

เล่าให้ฟังก่อนว่า ครูที่ประเทศนี้เค้าก็คงเหมือนกับอาชีพธรรมดาอื่นๆ ที่ใส่เสื้อผ้ายังไงไปสอนก็ได้ สเตฟานและโรมานก็เช่นเดียวกัน ที่ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ไปสอน (แต่ก็มีครูที่ใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คนะ) และบางวันก็ดูเหมือนว่าจะใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกับเมื่อวาน เอกลักษณ์ของโรมานก็คือหัวยุ่ง ๆ อยู่เสมอ เค้าไม่ชอบหวีผม

(more…)

Jul 06

เรื่องมีอยู่ว่า ……
Mr. A เป็นฆาตกรต่อเนื่อง เขาไล่ฆ่าผู้หญิงมา 4-5 ราย จนรายสุดท้ายมาจนมุมพี่ตำรวจ ในขณะที่จับกุมกัน Mr.A ตกตึกแต่ไม่ตาย นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ในโรงพยาบาลของเรือนจำ นอนอู้อยู่อย่างนั้น 2-3 ปี ยังไม่มีการขึ้นศาลตัดสินโทษ เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ รอการรไต่สวนและรับสารภาพของ Mr. A อยู่มาวันหนึ่งก็ฟื้นขึ้นมาแต่แพทย์บอกว่า Mr. A จำอะไรไม่ได้แล้ว ความจำเสื่อมโดยสิ้นเชิง และไม่รู้ว่าจะจำได้อีกเมื่อไหร่

Mr.B เดินตัวเปื้อนเลือดอยู่กลางถนน จำไม่ได้ว่าไปทำอะไรมา ตำรวจตามรอยไปจนเจอต้นตอ พบศพของครอบครัวหนึ่ง พ่อ แม่ ลูกสาว นอนจมกองเลือดขนาดใหญ่ กองพิสูจน์หลักฐานทำการวิเคราะห์ออกมาแล้ว Mr. B เป็นผู้กระทำการนั้นด้วยตนเอง แต่ Mr. B จำไม่ได้

Mr. C เป็นคุณหมอ จะไปประชุมทางวิชาการ ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุ ฟื้นขึ้นมาเหมือนว่าความจำล้มเหลว อ้างว่าตัวเองเป็นคนนี้ และเป็นสามีของเธอคนนั้น แต่หญิงสาวที่ถูกอ้างว่าเป็นเมียกลับปฏิเสธว่าม่ายช่าย ทำไปทำมา Mr. C นั่นแหละจำตัวเองไม่ได้ ว่าได้รับมอบหมายให้ปลอมตัวเป็นหมอมาลักลอบโจรกรรม และปลิดชีวิตคนบางคน สรุป Mr. C เป็นผู้ร้ายแต่จำไม่ได้

ทั้ง Mr. A / B / C มาจากหนังคนละเรื่องกันแต่มีประเด็นน่าสนใจสำหรับมดคือ ภาวะการ ลืม / จำ และการกระทำหลังจากนั้น มันเหมือนกับมีหลุมอากาศระหว่างช่วง ลืม — และกลับมาจำได้อีกครั้ง หลุมอากาศที่ว่าเหมือนจะทำให้สามัญสำนึกของคนดี ๆ กลับมา เหมือนเกิดเป็นคนใหม่ ว่างั้น

ช่วงที่ Mr. A ยังจำไม่ได้ ทางตำรวจก็พยายามกระตุ้นเตือนด้วยเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ มีการใช้ไฟฟ้า ใช้ภาพของเหยื่อที่ตายด้วยน้ำมือ Mr.A มากระตุ้น น่าแปลกที่ Mr. A ตอนยังไม่ลืมก็หนีหัวซุกหัวซุนและไล่ฆ่าจนเป็นฆาตกรต่อเนื่องแบบไม่ปราณีเหยื่อ ทำตัวเสมือนปีศาจร้ายไร้หัวใจ แต่พอตอนจำอะไรไม่ได้ กลับรู้สึกผิด ยิ่งพอได้ฟังว่าตัวเองเคยทำอะไรมาบ้างก็อยากจะจำได้และรับโทษทัณฑ์แต่โดยดี … ซะอย่างนั้น!!

มดเลยสงสัย ตัวตนที่แท้จริงของ Mr.A คือคนไหน ก่อนลืม? ระหว่างลืม? ไม่ลืมแล้ว?

ตอนตำรวจบอก Mr. B ว่าเป็นคนฆาตกรรมครอบครัว พ่อ แม่ ลูก คุณMr. B ถึงกับร้องไห้ และยินยอมรับผิด แม้ว่าจะจำไม่ได้ก็ตาม

Mr. C ก่อนจะลืม แกเป็นนักฆ่ามือทอง ตอนจำอะไรไม่ได้แกคิดว่าตัวเองเป็นหมอธรรมดา ที่โดนองค์กรร้ายตามล่า คิดว่าตัวเองเป็นคนดีว่างั้นเถอะ แต่พอจำได้ขึ้นมา ก็สับสนว่าจะดำรงค์ตำแหน่งไหนดี สุดท้ายก็เลือกเป็นคนดีซะอย่างนั้น

มันทำให้มดครุ่นคิดว่า โดยเนื้อแท้แล้ว มนุษย์เราอยากเป็นคนดี ทำสิ่งดี และรู้สึกผิดกับการกระทำชั่ว แต่ในบางจังหวะ ชีวิตพาเราเดินไปยังจุดที่ไม่พึงใจ ไม่งดงาม จนไม่สามารถถอยหลังกลับได้แล้ว ถ้ามีโอกาสได้ลืม และตื่นฟื้นขึ้นมาใหม่ ก็พร้อมจะกลับกลายเป็นคนดี มีสติ … อย่างนั้นรึเปล่า??

หนังทั้งสามเรื่อง จบแค่คนชั่ว คนเลว ทั้งสามคน พอความจำเสื่อม ก็เหมือนกลายเป็นคนปกติ แต่พอความจำคืน ก็มีสามัญสำนึกกลับคืนมาและยอมรับผิดกลับตัวกลับใจเป็นคนดี … หนังไม่ได้บอกว่าหลังจากโดนสภาวะ”คนดี”เฆี่ยนตีแล้ว จะกลับไปคิดแบบเดิม ยึดอาชีพเดิมอีกหรือไม่

บางทีเราก็ต้องดูกันนาน ๆ สัตว์ร้ายในตัวเราไม่ได้มีแค่ตัวเดียวเสียเมื่อไหร่


Mod-x