Dec 12

ในช่วงวัยหนึ่งของชีวิต ฮอร์โมนจะผลักดันให้เราครุ่นคิดและหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของความรัก มากกว่าเรื่องสำคัญอื่นใด ไม่ว่าโลกจะเป็นสีชมพู สีแดง หรือช้ำเลือดช้ำหนอง เชื่อว่าตอนนั้นเราต้องมีใครสักคนอยู่ใกล้ ให้คอยระบายทั้งเรื่องสุข ทุกข์ สมหวัง กำลังหวัง หมดหวัง หรือปรึกษาหาแนวทาง แนวร่วม ฟาดฟันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเรา – คน ๆ นั้นเราเรียกเขาว่า “ศิราณี” แม้ว่าเขาจะมีชื่ออื่นก็ตาม

เท่าที่จำความได้ มดไม่ค่อยได้ปรึกษาเรื่องความรักกับใคร ส่วนใหญ่จะลุยเดี่ยว และบ่อยครั้งที่เก็บเงียบไม่ให้ใครรู้ บางทีก็วางแผนรุก แผนลับอยู่คนเดียว นาน ๆ จะกระโตกกระตากสักที บางทีกว่าเพื่อนจะรู้ก็ใกล้จะเลิกกับหนุ่มรายนั้นอยู่รอมร่อ

แต่ไม่ต้องนึกก็จำได้ว่าเปลี่ยนชื่อเป็น “ศิราณี” บ่อยเสียจนรู้เคล็ดลับว่าการเป็นศิราณีนั้นง่ายนิดเดียวคือ “ฟัง” ไม่ต้องเสนอหน้าไปออกความเห็น หรือโต้แย้งถกเถียง เพราะคนที่มาปรึกษาไม่ได้คาดหวังอะไรจากเรานอกเสียจากหู และอาการรับรู้ของเรา อ้อ! และการยิงคำถามให้เข้าเป้าเป็นระยะ เท่านั้นเอง

แต่กว่าที่มดจะจับเคล็ดนี้ได้ ก็เล่นเอาแปลงร่างเป็น “นางฟ้า” เสียเหนื่อย เพราะมดจะเอาตัวเองไปแทนที่คนที่มาปรึกษา เสมือนว่าเหตุการณ์รักของเขาเป็นเหตุการณ์รักของเรา ทุ่มเทแนะนำ ”ถ้าเป็นเรา เราจะทำอย่างนี้” “ถ้าเป็นเรา เราจะไม่ทำอย่างนั้น” หมดน้ำลายและพลังจิตไปมากมาย สุดท้ายเขาก็ทำอะไร ๆ ที่เราห้ามนั่นแหละ และที่บอกว่าเป็น “นางฟ้า” ก็เพราะมดอดไปคิดไม่ได้ว่า การที่เขามาปรึกษาเรานั้น คงหมดหนทางไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร มีแต่เราเท่านั้นที่ช่วยได้ แล้วเราก็ดันเชื่อไปจริง ๆ ว่าเรานี้นี่แหละที่จะช่วยเขาได้เป็นแน่แท้ เราคือนางฟ้าผู้อารีย์ เราจะช่วยโอบอุ้มเขาฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปด้วยกัน

ซึ่งต่อให้เราเป็น “นางฟ้า” ลอยลงมาพร้อมคทาวิเศษจริง ๆ เขาก็ไม่ได้ต้องการ มนุษย์เรานี่เป็นพวกที่มีความคิดเป็นของตัวเองนะ ต่อให้คนที่ดูไม่น่าจะมีความคิดเป็นของตัวเอง ก็ยังมีความเชื่อของตัวเองที่ใครจะมาเปลี่ยนไม่ได้ แล้วมนุษย์ก็ดื้อดึงไม่ค่อยเชื่อใครง่าย ๆ ต่อให้เขาบอกว่าเป็นคนว่านอนสอนง่ายก็ตาม ดังนั้นไอ้การที่มดบอกว่าเคล็ดของ “ศิราณี” คือ “ฟัง” อย่างเดียว ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ใส่ใจ หรือทำตัวเป็นก้อนหิน ตอไม้หรอกนะ

แต่เป็นเพราะมดเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนจะหาหนทางแก้ปัญหาของตัวเอง ได้ด้วยวิธีของตัวเอง ยิ่งไม่ต้องไปบอกว่า ถ้าเป็นเรา เราจะทำอย่างนั้น เพราะทำยังไง มันก็ไม่สามารถที่จะเป็นเราไปได้ เพราะมันเป็นเรื่องของเขา มีปัจจัยอะไรมากมายที่เราอาจจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงคิดอย่างนั้น หรือทำอย่างนั้น

สิ่งที่ “ศิราณี” ทำได้ก็คือ รับฟัง และ ทำให้เขารู้ว่า เราอยู่ตรงนี้เสมอที่จะคอยฟังและเป็นเพื่อน คอยเปลี่ยนเรื่องบ้างถ้ารู้สึกว่าเริ่มสับสนวกวน หรือชวนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้างถ้าเห็นว่าเริ่มหมกมุ่น และที่สำคัญเคารพการตัดสินใจของเขาแม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วย ศิราณี ไม่ใช่ นางฟ้า – ศิราณี แก้ปัญหาอะไรไม่ได้หรอก – แต่ศิราณีช่วยดึงเขาออกมาจากวังวนปัญหาได้ชั่วคราว ด้วยการรับฟัง ชวนคุย และไม่ทิ้งขว้างกัน

เพราะมดเชืออย่างมากว่า คนที่แก้ปัญหาความรักด้วยการคิดอะไรสั้น ๆ เป็นเพราะเขาไม่มีเพื่อน ไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ ที่ชื่อว่า “ศิราณี”

2 Responses to “นางฟ้าในคราบศิราณี”

  1. แม่พลอย Says:

    นี่หมายถึงอิชั้นหรือเปล่าค่ะเนี่ยะ!

  2. Color Says:

    จริงเหรอ ชอบเป็นศิราณีจริงเหรอ งั้นมีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะเลยนะ…เอาป่าว 5555

Leave a Reply