Nov 22

หลวงพ่อชากล่าวไว้ว่า “การปฏิบัตินั้น ขี้เกียจก็ทำ ขยันก็ทำ แล้วอีกหน่อยก็จะชนะตัวเอง” วันนี้และตอนนี้มดอยู่ในช่วงอารมณ์ตก ขี้เกียจเขียนเป็นอย่างมาก แต่รู้จักตัวเองมากพอจนแน่ใจว่าอีกไม่กี่วันอารมณ์ก็จะขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าเป็นอาทิตย์ก่อน วันนี้คงไม่ได้มานั่งเขียนและคงจะหาเหตุผลดี ๆ ที่ตัวเองชอบฟังมาบอกว่า ”อย่าเพิ่งเขียนเลย วันนี้อารมณ์ไม่ปกติ เดี๋ยวงานเขียนจะออกมาไม่ดี” แต่เพราะตั้งแต่นี้ไปอยากจะเอาชนะตัวเอง อยากฝึกวินัยให้กับตัวเอง และใช้คำของหลวงพ่อชาเตือนตัวเองแบบย้ำ ๆ ว่า “ขี้เกียจก็ทำ ขยันก็ทำ” ฟังดูเหมือนว่าไม่สนใจว่าผลงานนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร ลักษณะคล้ายหุ่นยนต์ แต่สำหรับมดถือว่าเป็นการดัดสันดานของตัวเองได้อย่างดี

ก่อนที่จะเริ่มเขียนจริงจังทุกวันอย่างนี้ มดเคยมีไดอารี่แบบจดบันทึกความรู้สึกอยู่หลายเล่ม ซึ่งแต่ละเล่มเขียนไปได้ไม่เคยเกิน 10 หน้า แถม Blog online แบบนี้ก็เคยทำมาตั้งแต่เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว เขียน ๆ หยุด ๆ จนขี้เกียจและล้มเลิกไปในที่สุด ระหว่างที่ไม่ได้เขียนอะไรเลย ก็มักจะนั่งนึกถึงเรื่องที่อยากจะเขียนอยู่เสมอ เห็นอะไรน่าสนใจก็จดไว้ในหัว แต่ไม่เคยจดลงกระดาษ วันเวลาผ่านไปก็ปล่อยให้ความคิดนั้นลอยไปในอากาศ 

มดเริ่มต้นเขียนเพราะอยากเขียน เพราะรู้สึกแย่กับตัวเองที่อายุมากขึ้นทุกวัน ทำไมยังยอมแพ้ความขี้เกียจอยู่ร่ำไป รู้ดีว่าเครื่องมือกำจัดความขี้เกียจคือวินัย และสำหรับมดขอพ่วงความภูมิใจขึ้นมาอีกอย่าง การจัดสรรเวลาให้กับตัวเองได้ทำอะไรบางอย่างเป็นประจำทุกวันและบังคับตัวเองให้ทำได้ตามนั้นนั่นคือวินัย แต่หลังจากที่ทำได้ตามนั้นอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน และทำได้ดีจนตัวเองพอใจ นั่นคือความภูมิใจ สองอย่างนี้โบยตีให้ความขี้เกียจตัวเล็กลงเรื่อย ๆ และมดหวังว่าจะเล็กลงไปมากกว่านี้อีก

สิ่งที่นอกเหนือไปจากความขี้เกียจที่มดต้องการกำจัด ก็คือมดอยากพัฒนาการเขียนของตัวเอง โดยไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะได้เป็นนักเขียนชื่อดัง หรือประสบความสำเร็จในชีวิตนักเขียน มดแค่เขียนเพื่อที่จะเขียนให้ดี ไม่ได้มีเป้าหมายอื่น และเพิ่มเติมมากไปกว่าการมาเขียนบน Blog วันละเรื่อง มดเขียนเรื่องเป็นภาษาเยอรมันวันละแผ่นส่งให้ครูลูเชอร์ด้วย อยากรู้ว่าทักษะการเขียนที่เรามีอยู่เท่านี้ กับทักษะภาษาเยอรมันที่มีอยู่น้อยนิด จะทะลุกำแพงภาษาและสามารถสื่อออกไปได้อย่างใจหรือไม่

ทุกวันนี้มดตื่นก่อนเวลาที่ควรจะตื่น 1 ชั่วโมง เพื่อจะได้มีเวลามานั่งเขียนอะไรก็ได้ 1 เรื่องลงบน Blog และใช้เวลาในการนั่งรถไฟกลับจากโรงเรียน 40 นาทีเขียนเรื่องอะไรก็ได้เป็นภาษาเยอรมัน 1 เรื่อง นั่นคือวินัย และคือความภูมิใจที่ขับเคลื่อนชีวิตมดในช่วงนี้

Mod-x  

3 Responses to “ขี้เกียจ”

  1. เจ๊กอ Says:

    อยากขี้เกียจก็ทำ และมีวินัยแบบมดบ้าง
    บางทีอ้างขี้เกียจ เพราะอยากตกตะกอน
    ไม่เคยเขียนอะไรได้ทุกวันหรอก
    อารมณ์อยากเขียนมันมาเป็นบางวัน
    มาแบบทะลักๆ แต่ถ้าเขียนแล้วจะไม่อยากนอน
    ตื่นเช้าไม่เป็นนิ ทุกวันนี้จำใจตื่น หัวแล่นเฉพาะตอนคนอื่นๆเขานอนเท่านั้น

    ความคิดนี่มันไหลทะลักได้ตลอดเวลาทั้งวันเลยเนอะ
    เคยคิดว่าถ้ามีเครื่องมือทันสมัยเสียบเข้าสมอง
    แล้วเขียนความคิดออกมาได้ขณะที่คิดเลย ท่าจะดี
    ไม่ต้องรอว่างมานั่งเขียนเรียบเรียงตัวอักษรที่เคยคิดใหม่
    เพราะเวลาหัวแล่นๆ ไม่ต้องเค้นคิดที่จะดีดเขียนเลยจริงๆ
    มันพรวดๆ ออกมา เอากะละมังรองเก็บไว้ก่อนก็ไม่ได้
    คิดฟุ้งๆ แล้วปลิวหายไปซะหมด จดก็ไม่ทัน – กำ 555

  2. Color Says:

    แล้ววันนี้ล่ะ โบยตีตัวขี้เกียจได้สักกี่ทีแล้ว เดือน พ.ค. ยังไม่เห็นเขียนสักเรื่องเลย ^_^

  3. ทัวร์ญี่ปุ่นราคาถูก Says:

    Their designs, characterized by cross over tops and empire waists, always flatter a
    woman’s body and emphasize her best features. Changes to
    the laws in 1978 made it possible for smaller breweries to produce and distribute
    on the public market. Planning, training, rehearsals and
    response all need to be inclusive of the “worst possible time” concept.

    Visit my web page ทัวร์ญี่ปุ่นราคาถูก

Leave a Reply