Jun 18

ในบางครามดก็เจอคำถามว่า “มดมีคาถาใดที่สามารถปลุกปลอบตัวเองให้ทำงานติดต่อกันได้โดยไม่ท้อ” มักจะเป็นคำถามจากลูกค้าที่มาเที่ยว เพียงแค่สัปดาห์เดียว เหล่านักท่องเที่ยวก็เหนื่อยล้ากับการเดินทางเสียแล้ว ในวันที่มดเดินทางไปส่งบางคณะขึ้นเครื่องกลับ รุ่งขึ้นก็จะมีคณะใหม่มาให้เรารับใช้ต่อไปอีกหนึ่งอาทิตย์ จึงมักจะมีคำถามจากผู้กำลังเหนื่อยมายังมดว่า “ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”

พูดกันจริง ๆ ก็คือ “ทั้งเหนื่อย และท้อ” คาถาที่ถาม ๆ กันมาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า “ชีวิตและความอยู่รอด” นี่เขียนให้มันดูเพื่อชีวิตไปอย่างนั้นแหละ อันที่จริงตอนที่ทำงานอยู่มันวุ่นวายไปด้วยเรื่องนั้นเรื่องนี้ซะจนไม่มีเวลาคิดที่จะเหนื่อย จะท้อ จะป่วย หรือจะตายหรอกน่ะ หมดกรุ๊ปนี้ ก็ซักผ้า เก็บบ้าน ดูดฝุ่น ล้างห้องน้ำ รีดผ้า ออกไปซื้อของเตรียมรับกรุ๊ปต่อไป วนเวียนอยู่อย่างนี้สองถึงสามเดือนติดกัน พอมีคนถามว่า “ไม่เหนื่อยเหรอ” ก็ตอบไป “เหนื่อยอยู่หรอก แต่จะให้ทำยังไง?” ยังมีแรงทำได้ก็ทำไป

แต่ก็ไม่ใช่ว่ามดจะไม่มีแรงจูงใจในการลุกขึ้นมาฮึดสู้ในแต่ละเช้า (นี่ก็เขียนให้ดูเพื่อชีวิตอีกแล้ว จริง ๆ ก็คือตื่นตามเวลาด้วยความเคยชินในเวลาเดิมทุก ๆ วัน ไม่ต้องใช้แรงจูงอะไรทั้งนั้น) ในแต่ละปีมดวางแผนไว้ว่าจะมีช่วงเวลาให้ได้หยุดพักผ่อน มีเวลาทำนู่นทำนี่ในฤดูร้อน 1 เดือน และฤดูหนาว 3 เดือน จะว่าไปมันคือชีวิตที่ดีเชียวล่ะ

ปีนี้ได้รับโบนัสเร็วกว่าปกติ ลูกค้าไม่มีจองเข้ามาในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ทำให้อยู่ดี ๆ ก็ได้มีเวลาอยู่นิ่ง ๆ 3 อาทิตย์โดยแลกกับการไม่มีรายได้ ง่าย ๆ อย่างนั้นแหละ ดีกว่าการฟูมฟายมดจึงใช้เวลาที่ได้มาดุจดั่งได้โบนัสกลางปี แล้วมดก็ค้นพบความสุขของการไม่ทำงานอะไรเลย ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย มันช่างหอมหวาน และอ่อนโยนต่อชีวิตอันแสนกระด้างของมดเสียจริง ๆ

วันนี้ใน “นิ้วกลม” ทวิตถามว่า “อะไรอยู่นานกว่าระหว่างความขม กับความหวาน” แล้วก็เฉลยตามมาว่า “สำหรับผมความขมจากความหวานอยู่นานที่สุด” มันก็อาจจะจริงในบางคน แต่สำหรับมดมันคือ “ความหวานจากความขม” ต่างหากที่ทำให้ชีวิตมดอยู่ได้นาน

การทำงานหนักติด ๆ กันมันคือความขมของชีวิต แม้หลาย ๆ คนจะบอกว่าขมนั้นดี ขมเป็นยา ซึ่งมันจริงแท้ โดยจะหาความจริงอะไรมากไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว การทำงานทำให้สมองกระปรี้กระเปร่า ร่างกายไม่เปราะบาง แต่หากที่ปลายขมไม่มีความหวานรออยู่ บางทีเราอาจจะไม่มีแรงมากพอที่จะว่ายทวนกระแสทะเลคลื่นแห่งความขมนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งก็เป็นได้

ความหวานที่รออยู่ของมดก็คือ “เวลาว่าง” ที่มดจะจัดสรรค์ใช้ไปในทางไหนก็ได้ที่มดปราถนา ซึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมามดใช้มันให้หมดไปกับสิ่งที่มดอยากทำหลาย ๆ อย่างเช่น ขี่จักรยาน เดินเล่น อบขนม ทำกับข้าว วาดรูป อ่านหนังสือ ยิงปืน เล่นควอช และใช้เวลาอีกอาทิตย์หมดไปกับการไม่ทำอะไรเลยนอกจาก นอนดู DVD ตั้งแต่เช้าจรดเย็น (สลับกับหลับเป็นพัก ๆ และลงไปหาอะไรง่าย ๆ กิน) แถมเป็น DVD ซีรี่ย์ที่มดดูแล้วดูอีกหลายครั้งแล้วด้วย

มันเป็นการยากที่เราจะใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีใครมาบังคับแม้แต่ตัวเอง ความโชคดีอย่างนึงของมดก็คือมดอยู่กับอ้วนสองคนโดยที่ไม่มีสังคมอะไรอยู่ใกล้เลย และอ้วนก็ไม่เคยมาบังคับให้มดทำหรือไม่ทำอะไร ทีนี้ก็เหลือปัญหาเดียวก็คือตัวเอง ในช่วงแรกของการไม่ทำอะไรเลยมันค่อนข้างลำบากมาก เพราะใจจะคอยพะวงอยู่ตลอดเวลาว่า น่าจะทำนั่น น่าจะทำนี่ ควรจะทำอะไร ไม่ควรจะทำอะไร มดว่ามันเป็นศิลปะโดยแท้ทีเดียว สำหรับมด ขี้เกียจนั้นง่าย แต่จะทำให้มันการเป็น ศิลปะ นั้นยากมากนะ

มดไม่เคยกลัวว่าตัวเองจะขี้เกียจจนเสียคน เพราะรู้จักตัวเองดีพอว่าเมื่อร่างกายและจิตใจพักจนถึงระดับหนึ่ง มันคล้ายกับลูกบอลที่ตกลงจากที่สูงร่วงไปยังหลุมดำที่มองไม่เห็น แม้ไม่รู้ว่ามันจะกระทบพื้นล่างเมื่อไหร่ แต่เชื่อได้แน่ว่าเมื่อมันกระทบแล้วมันจะเด้งกลับขึ้นมาเป็นแน่แท้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ยังไงมันก็จะต้องเด้งขึ้นมา และจะพาพลังงานบางอย่างตามมาด้วยในบางครั้ง

ซึ่งพลังที่ว่าทำให้มดมีแรงกระโจนลงไปในคลื่นทะเลแห่งความขมอีกครั้ง พร้อมกับว่ายทวนมันขึ้นไป

……
Mod-x

One Response to “ขม-หวาน”

  1. Ae Says:

    Jack Season 8 มาแย้ว!!!

Leave a Reply