May 27

เมื่อหลายวันก่อนตอนที่มดนั่งน้ำตาไหลอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มดก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าน้ำตาอันมากมายจนแขนเสื้อเปียกนี้เป็นไปเพื่อใคร จนเมื่อวานที่พี่จุ๋ยถามว่า แล้วแกร้องไห้ให้ทหารมั้ย / คนเสื้อแดงที่ตายไปล่ะ / เสธ.แดงล่ะ หรือว่าแกร้องไห้ให้กับตึกที่ถูกไฟใหม้เฉย ๆ มดถึงได้คำตอบว่า มดร้องไห้ให้กับเหตุการณ์ทั้งหมดนั่นแหละ คนตาย ตึกราม บ้านเมือง และประเทศชาติ

การที่มดอยู่ไกลแบบนี้ ทำให้ความโศกเศร้ามันถาโถมรุนแรงกว่าปกติ อาจจะด้วยความคิดที่ว่าเราไม่ได้ร่วมปรับทุกข์กับครอบครัว กับเพื่อนแบบใกล้ชิดต่อเหตุการณ์กระมัง แต่การที่อยู่ไกลแบบนี้ก็ทำให้มองภาพรวมง่ายและชัดขึ้น

น้ำตามดที่ไหลริน น่าจะให้กับความสูญเสียของหญ้าแพรกที่แหลกราญ ทั้งที่เคยเกิดมาแล้วและจะเกิดอีกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐหรือตรงข้ามรัฐ สุดท้ายผู้ที่สูญเสียก็คือหมากในกระดานอย่างพวกเรา เบี้ยที่ถูกควบคุมโดยคนไม่กี่คนในประเทศ

ในวันที่มดพร่ำบ่นว่า สงสารชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ชาวบ้านที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออันมีสาเหตุเบื้องต้นจากความไม่รู้ และความไม่เท่าเทียม คนข้างตัวก็ถามคำถามย้อนมาว่า ไม่สงสารตัวเองบ้างหรือ เพราะใช่ว่าคนชั้นกลางในกรุงเทพจะรู้อิโหน่อิเหน่ เท่าเทียม มีความรู้ และไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือเสียเมื่อไหร่ล่ะ … เห็นจะจริงก็คราวนี้

เมื่อใจกลางกรุงเทพถูกเผา ใครบางคนเกริ่นขึ้นมาว่า ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างน่าจะเข้าใจกันมากขึ้นไม่มีใครเป็นเอกเทศ หรือปัจเจก ทุกอย่างเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันหมด มดคิดตามและก็หวังว่า เมื่อควันจาง กลุ่มชนชั้นกลางก็จะหันมาทำความเข้าใจว่า เหตุใดชาวบ้านเสื้อแดงจึงทิ้งที่นา ที่ทำกิน และออกมารวมตัวต่อสู้ กันนานนับเดือนเช่นนี้ มากกว่าจะมองแค่ตื้น ๆ ว่า เสื้อแดงรับเงินมาประท้วง และหวังว่าชาวบ้านเสื้อแดง จะเห็นผลพวงของการกระทำของตนเองที่ก่อให้เกิดวินาศกรรมอันใหญ่หลวง อันส่งผลต่อผองพี่น้องชาวไทยอย่างไรบ้าง

มดไม่ใช่เสื้อแดง แม้จะชอบสีแดงจับใจ มดไม่ใช่เสื้อเหลือง แม้ว่าจะเป็นสีประจำของกษัตริย์ไทย มดไม่เห็นด้วยกับการเอาป้ายไปแปะใครว่าเป็นพวกไหน สีอะไร แค่เริ่มพูดว่า มึงสีอะไร? ก็หมายถึงว่าเราได้ขีดเส้นทางของการปรองดองให้ห่างออกไปอีกก้าวแล้ว การเปิดใจและรับฟังข้อมูล จะทำให้เราเอาข้อดีของแต่ละกลุ่มมาคิดและวิเคราะห์ด้วยสติและปัญญา เราอาจจะพบหนทางที่จะทำให้เราหันหน้าเข้ามาคุยกันก็ได้

ภาพของการร่วมมือช่วยกันขัดล้างกรุงเทพ เป็นภาพที่น่าชื่นใจ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปกว่านั้น เราจะเห็นความขัดแย้งที่ชัดเจนที่สุด เรากำลังจะสร้างกลุ่มที่รักใคร่แนบแน่นกลุ่มหนึ่ง เพื่อต่อต้านและเดียจฉันท์คนอีกกลุ่มหนึ่ง ในขณะที่มือทำหน้าที่ฉีดน้ำชำระความสกปรก ปากก็ก่นด่าผู้ที่ทำให้เกิดความสกปรกนั้น คนกรุงเทพกำลังยืดอกและอวดอ้างความปรองดองของตนเอง โดยประกาศว่า เมื่อมึงเผา พวกกูจะชะล้างและสร้างขึ้นมาใหม่

ไม่มีใครคิดถึงความปรองดอง ของคนทั้งชาติหรอก ณ ตอนนี้ – นั่นแหละคือน้ำตาที่ไหลรินของมด ไหลให้กับความพ่ายแพ้ของทุกคนในชาติ ไหลให้กับความปรองดองจอมปลอมของทุกคนไม่ว่าจะเสื้อสีไหน

อย่ามาถามว่ามดสีอะไร เพราะมันเป็นคำถามที่หยาบคายที่สุด และไม่อยากฟัง!!

Mod-x

2 Responses to “น้ำตานี้ให้ใคร”

  1. พี่แก้ว Says:

    คนบนโลกเรามันก็เป็นอย่างนี้มานานแล้วล่ะ ไม่ดำ-ก็ขาว แล้วก็ผสมมั่วไปเป็น “สีเก” ทับถมฝั่งตรงข้าม ทำดี(กรูต้อง)ได้ดี ทำไม่ดี(กรูจะ)โดนด่า ทำบ้างไม่ทำบ้าง(กรูเฝ้า)ด่าคนที่ทำผิดทำพลาดไปเรื่อย บางวันใจเราก็สีเลอะๆ ไปเหมือนกันนะ เมื่อใจดำนองไปเลอะใจขาว — ใจเราเริ่มเกเร สติแตก

  2. Mod-x Says:

    มดชอบบทสนทนาในหนังเรื่องนึง
    ชาย 1 : เค้าเป็นคนยังไง ดี หรือ เลว?
    ชาย 2 : มีให้เลือกแค่นี้เองเหรอ?

    บางทีคนเราก็เผลอไปมองแค่นั้นเนอะพี่

Leave a Reply