Aug 05

บทเพลงนี้มดได้ยินครั้งแรกเมื่อตอนไปเข้าค่าย YMCA เมื่ออายุประมาณ 12-13 ปี มันเป็นคืนสุดท้ายของการเข้าค่าย คืนที่เศร้าซึ้งและเต็มไปด้วยน้ำตา เหล่าพี่ ๆ ที่คอยดูแลเราตลอดระยะเวลาสิบวัน นั่งล้อมวงซ้อนพวกเราไว้อีกที ประสานเสียงร้องเพลงที่มดในตอนนั้นไม่ได้เข้าใจความหมายสักเท่าไหร่ แต่กลับร้องห่มร้องไห้ สะอึกสะอื้นและหันไปกอดพี่คนหนึ่งไว้แน่น – “พบกันเพื่อจาก พรากกันทำไม…ให้ผิดหวัง”

แม้จะไม่เคยได้ยินเพลงนั้นอีกเลย แต่ไม่รู้ทำไมมดยังจำท่อนนี้ของเพลงได้แม่นยำทุกครั้งที่ต้องพบกับความพลัดพราก และถึงจะยิ่งนานไปจะทำใจได้กับการจากลา เข้าใจว่ามีพบก็ต้องมีจาก ไม่วันนึงจากเป็น ก็ต้องจากตาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกรู้สึกรู้สา กับคนที่รักและมีความหมายก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาในคราต้องจากกัน

เมื่อวานมดยืนอยู่หน้าโต๊ะในห้องครัว ยืนมองเค้กกล้วยหอมที่ถูกห่อด้วยแผ่นฟรอยส์สีเงินเพื่อกันไม่ให้แห้ง ในขณะที่มดกำลังคิดว่าจะเปิดมันขึ้นมากิน หรือไม่กินดี คลื่นอารมณ์อันหลากหลาย ก็โถมเข้าใส่โดยที่มดไม่รู้ตัวและไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น มันทำให้มดทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง แล้วมดก็ปล่อยให้ตัวเองไหลไปกับคลื่นอารมณ์นั้น มดร้องไห้ ร้องไห้ และร้องไห้ ทำนบน้ำตาดุจน้ำที่ทะลักล้นเขื่อน และล้นออกมานอกตา มดซบหน้าลงกับเข่า ก้อนสะอื้นกระทบเข้ามาลูกแล้วลูกเล่า น้ำจากนัยตามากมายเปียกกางเกงตัวบางจนชุ่ม มดได้ยินตัวเองร้องไห้โฮดั่งเด็กน้อย เสียงมันก้องทะลุความเงียบของห้องครัว ขนาดตัวมดเองได้ยินแล้วยังเศร้าและเจ็บแปลบในใจ

หลังจากเวลานั้นผ่านพ้นไป มดถึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นอ่อนแอและอ่อนไหวเพียงใด เมื่อวานพี่จุ๋ยจากไปแล้ว มดไปส่งที่สนามบิน การจากลาเป็นไปอย่างชื่นมื่น เรากอดกัน หยอกล้อกัน และแม้ไม่ได้สัญญามดก็รู้ว่าพี่จุ๋ยจะกลับมาอีก เหมือนเมื่อปีที่แล้วที่พี่จุ๋ยจากไปแล้วปีนี้ก็กลับมาอีก – หนึ่งปีไม่นานเกินรอ – การจากลาจึงไม่ควรมีน้ำตาให้ต้องสะทกสะเทือนใจ

มดกลับมาถึงบ้าน หมดเวลาไปกับการเก็บผ้าผ่อนซัก กวาดบ้านทำความสะอาดห้องน้ำ การได้เก็บกวาดร่องรอยของเพื่อนรักที่ทำให้มดหดหู่เมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้เกิดขึ้นในปีนี้ เพราะมดมีความหวังว่าปีหน้าเพื่อนจะกลับมา มดใช้เวลาจนค่ำเพื่อเนรมิตรให้บ้านกลับมาเป็นบ้านมดอีกครั้ง หลังจากพายุครอบครัวพี่จุ๋ยได้ปัดกวาดมันไปคนละทิศละทาง ครัวที่สะอาดเอี่ยม แทบจะส่งประกายวิ้ง วิ้ง มาจากอ่างล้างจาน พื้นถูกขัดถูเสียจนลงไปนอนได้ ไม่มีกล่องน้อยใหญ่เกะกะ ไม่มีขวดนมเป็นร้อยขวดวางอยู่บนโต๊ะ ตอนนี้ครัวของมดสงบเสงี่ยม มีเพียงเค้กกล้วยหอมที่แต่งตัวอยู่ในชุดสีเงินนอนเชิญชวนอยู่บนโต๊ะ

เดือนกรกฎาเป็นเดือนที่มดตั้งใจจะหยุดพักผ่อน และพี่จุ๋ยมาหามดในเดือนนี้ก็ด้วยเหตุผลนี้ เรากลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนที่แม้จะไม่เหมือนเดิม 100% เพราะต่างก็มีคนของตัวเองที่ต้องดูแล แต่มันก็คล้าย ๆ ว่าจะดึงวันเวลาเก่า ๆ ที่แสนดีกลับมาได้อีกครั้ง เราไปช็อปปิ้ง ไปกินข้าว ไปเดินเล่น ชื่นชม ด่าทอ ซึ่งกันและกันด้วยหัวใจเบิกบาน เราชวนกันทำอาหาร ต้ม ผัด แกง ทอด ขนมไทย ขนมเค้ก ฯ ที่ผลของมันเป็นอย่างไรก็ไม่เท่ากับเวลาระหว่างนั้น

- ช่วงเวลาดี ๆ บางทีก็เป็นยาพิษเหมือนกันนะ -

นี่คือความรู้สึกของมดในตอนนี้ แม้มดจะรู้ว่าตัวเองแข้มแข็งขึ้นกว่าก่อน รับมือกับความรู้สึกที่มากระทบใจได้ดีขึ้น แต่ทำไมเรื่องบางเรื่อง เคยสะเทือนใจอย่างไร ก็ยังสะเทือนใจอย่างนั้น การได้มีพี่จุ๋ยในชีวิต ได้พบ ได้รักกัน ได้มอบความปราถนาดีให้แก่กัน เป็นสิ่งดีและมีค่ามหาศาล แต่การที่เราไม่สามารถอยู่ใกล้กันได้เหมือนก่อน เป็นความทรมานในทุกครั้งที่คิดถึงความจริงข้อนี้

พบกันเพื่อจาก พรากกันทำไม – แต่มดก็ยังหวังลึก ๆ ว่าแม้ชีวิตเราจะไม่ได้มาบรรจบกันเหมือนเดิม แต่ก็ขอให้ได้พาเอาชีวิตมาพาดผ่านกันบ่อย ๆ ก็แล้วกันนะพี่จุ๋ยนะ

Mod-x

3 Responses to “พบกันเพื่อจาก พรากกันทำไม”

  1. กะ-หนก Says:

    อ่านแล้วเหมือนสาวน้อยกำลังเสียน้ำตาคร่ำครวญถึงคนรักที่เพิ่งจากกันเลยว่ะ …อิอิ

  2. พา-หริ Says:

    เศร้าว่ะมด อ่านแล้วอดน้ำตาตกตามไม่ได้ อดนึกถึงบรรยากาศของค่ายใหญ๋ครั้งนั้นที่น้ำหนาวไม่ได้

  3. ..ฝังใจ Says:

    มีใครคนนึง เคยบอกผมว่า.. อย่าเอาอารมณ์ในปัจจุบันไปเปรียบเทียบกับความรู้สึกในอดีตที่ผ่านมา.,(ผมอาจจะจำคำพูดไม่ถูกทั้งหมดนะ)
    เค๊าขยายความให้ผมเข้าใจเพิ่มอีกว่า. หากในอดีตที่ผ่านมาทำให้เรารู้สึกดีกับมันมากๆไปแล้ว. จงอย่าไปคาดหวังว่าในวันนี้จะต้องเป็นอย่างวันเก่า..เพราะถ้ามันไม่ได้เท่าเดิมเราก้อจะผิดหวังกับมัน…

    ผมชอบคำพูดที่ว่า “..มดก็ยังหวังลึก ๆ ว่าแม้ชีวิตเราจะไม่ได้มาบรรจบกันเหมือนเดิม แต่ก็ขอให้ได้พาเอาชีวิตมาพาดผ่านกันบ่อย ๆ ก็แล้วกันนะ”. ..มันเป็นบทสรุปที่กินใจที่สุดแล้วจริงๆ

Leave a Reply