Apr 23

โดยปกติหนังสือที่มดชอบอ่าน และหยิบมาอ่านได้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ นอกจากหนังสือนิยายประโลมโลก และหนังสือของปราบดา หยุ่น และ ชาติ กอบจิตติ แล้ว ก็มักจะเป็นหนังสือประเภทสัมภาษณ์บุคคลที่ประสบความสำเร็จหรือบุคคลสำคัญ ๆ ที่น่าจดจำ เพราะคำสัมภาษณ์จากผู้ที่ตั้งคำถามเก่ง ๆ เรามักได้อะไรมากมายกว่าประวัติชีวิตธรรมดาเสมอ ไม่มีข้อยกเว้นของหนังสือเล่มที่ชื่อว่า “หมอก” ที่สัมภาษณ์ “10 ชาวไทย ผู้เป็นกำลังใจให้กับชาติ” โดยคุณ ทรงกลด บางยี่ขัน ซึ่งเป็นการรวบรวมมาจาก บทสัมภาษณ์ที่เคยลงไว้ในหนังสือ aday

ในตอนแรกมดเลือกอ่านคนที่ชื่อและหน้าคุ้น ๆ ก่อน แม้จะเป็นข้อมูลเดิม ๆ แต่ก็ได้เรื่องใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมา ส่วนบทสัมภาษณ์ของคนที่เราไม่รู้จัก เช่น ดร.ประมวล เพ็งจันทร์ คนที่มดไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยเห็นหน้า มดไม่ค่อยอยากอ่าน ไม่อยากสนใจมากนัก เปรียบไปก็เหมือนผักคะน้าที่เราเขี่ย ๆ ไว้ข้างจาน รอแม่เผลอเมื่อไหร่ค่อยแอบเขี่ยทิ้ง แต่ไป ๆ มา ๆ เวลาเหลือก่อนนอน กะว่าเริ่มซักย่อหน้าสองย่อหน้าแล้วค่อยนอน แต่เผลอแป๊บเดียว ดร.ประมวลกับกลายเป็นลูกชิ้นลูกสุดท้ายในชามก๋วยเตี๋ยวที่เก็บไว้ตบท้ายก้นกระเพาะซะนี่

ดร.ประมวล ถูกเรียกขานจากคุณทรงกลดผู้สัมภาษณ์ว่า “นักปรัชญา ผู้เดินเท้า จากเชียงใหม่ไปสมุย เพื่อตามหาความหมายของชีวิต” แม้มดจะไม่ได้ออกเดินเท้าร่วมกับดร.ประมวลในครานั้น แต่บทสัมภาษณ์ที่สมบูรณ์ชิ้นนี้ กลับทำให้ขณะที่เราอ่าน เราก็เริ่มเดินตามหาความหมายของชีวิตเราเช่นเดียวกัน

ตลอด 66 วันที่ดร.ประมวลเดินทาง กฎเหล็ก 2 ข้อก็คือ ไม่ใช้เงินไม่ติดต่อกับใครและเขียนโปสการ์ดถึงภรรยาวันละใบ

ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ดร.ประมวลประสบพบเจอ เป็นสิ่งที่น่าจดจำ และน่าจะเป็นความหมายของอะไรซักอย่าง ที่มดคิดว่าท่านเองก็คงค้นพบแล้ว และยังมีผลให้คนอ่านอย่างมดเนี่ย ได้คิดและตรึกตรองถึงอะไรบางอย่างด้วยเช่นกัน แม้เรื่องราวระหว่างทางจะน่าสนใจเพียงใด แต่คำสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องชีวิตคู่ของท่านกับภรรยา ทำให้มดสนใจมากยิ่งไปกว่า

“ชีวิตที่ดีงาม มันไม่ใช่เรื่องของเหตุผลที่เราสร้างขึ้นมาเองแล้วไปกำกับคนอื่น แต่ชีวิตคู่คือชีวิตที่เรามีความสุข และความรู้สึกอะไรบางอย่างร่วมกันที่ไม่ใช่เรื่องของเหตุผล ไม่ต้องมีเหตุผลมาอธิบายความผิดความถูกหรอก แต่มีจิตดวงหนึ่งที่ผูกพันกัน แล้วก็มีความรู้สึกผิดร่วมกัน รู้สึกถูกร่วมกัน การผสานอารมณ์เป็นอันเดียวกันได้ เป็นอะไรที่มหัศจรรย์”

ถึงตอนนี้มดอ่านหนังสือเล่มนี้จบครบบทสัมภาษณ์ของทั้ง 10 คนแล้ว รู้สึกขอบคุณทั้งคนถามและคนตอบ ที่ทำให้ตัวหนังสือเล็ก ๆ มีความหมายใหญ่เท่าชีวิตและความนึกคิด

Mod-x

Leave a Reply