Nov 11

ช่วงเวลาแห่งการหยุดพักจากการจัดทริป เป็นช่วงเวลาที่มดทุ่มเทเวลาเพื่อรื้อฟื้นภาษาเยอรมัน และเป็นช่วงเวลาที่ไปโรงเรียน(สอนภาษา) การเรียนภาษาในโรงเรียนที่เราต้องเสียเงินไม่ใช่น้อยเพื่อให้ได้ความรู้กลับมา เป็นการเรียนที่มีบรรยากาศอันเต็มไปด้วยความใฝ่รู้ กระตือรือร้น อยากค้นหา และแน่นอนเต็มไปด้วยการแข่งขัน

คน 6-7 คนในห้องเล็ก ๆ นั้นมาจากต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ต้องการเรียนรู้ภาษาใหม่ให้เร็วที่สุด จะมีความกดดันเล็ก ๆ แผ่ออกมาเสมอ เมื่อมีการถาม-ตอบ จากครูประจำชั้นในห้อง ใครคนหนึ่งกว่าจะคิดแต่ละคำและปั้นออกมาเป็นคำพูดจนจบประโยค -กินเวลาคนอื่นเกินไป- นี่คือสายตาที่พออ่านได้จากใครอีกบางคน แต่ก็มีใครอีกสองสามคนที่คอยส่งสายตาเชื้อเชิญให้ครูถาม ไม่ได้เป็นการโอ้อวด แต่เรียกว่าเป็นโอกาสที่ควรคว้า

มีสองคนในห้อง ที่มักจะตอบคำถามที่ครูถามขึ้นมาแบบไม่เจาะจงได้ และสองคนนี้สามารถอธิบายประโยคยาว ๆ ได้ไม่ตะกุกตะกัก สามารถถามคำถามได้คล่องปรื๊ดอย่างใจนึก สองคนนี้ไม่เคยมองหน้ากันตรง ๆ  สองคนนี้ไม่เคยพูดกันตรง ๆ ในวันสอบย่อยประจำอาทิตย์แม้ไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่สองคนนี้รู้ว่า ใครทำเสร็จก่อนคนนั้นชนะ และคนที่ทำเสร็จก่อนต้องถูกหมดทุกข้อเสียด้วยถึงจะเป็นผู้ชนะที่แท้จริง มันเป็นการประกาศศึกในอากาศ ในลมแห่งความว่างเปล่า ไม่มีใครรู้ว่าสองคนนี้แอบท้ารบกันเมื่อไหร่ และอย่างที่คนเขียนสคริปตั้งใจไว้ สองคนนี้ส่งข้อสอบถึงมือครูพร้อม ๆ กัน แต่ก็ไม่ได้มองหน้ากัน และถึงไม่ได้มองหน้ากัน ต่างก็กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในทีว่า - ฉันต่างหากคือผู้ชนะ -

ความจริงก็คือ หนึ่งในสองคนนั้นคือมดเอง และเรื่องที่เขียนขึ้นเมื่อย่อหน้าที่แล้ว เป็นความคิดตามจินตนาการของมดเอง คู่แข่งของมดนั้นมีตัวตนจริง ๆ เธอเป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่ง พูดจาฉะฉาน ว่องไว เป็นคนที่มักจะพุ่งคำพูดออกมาจ๊ะเอ๋กับมดอยู่บ่อย ๆ หมายถึงตอบคำตอบของครูได้พร้อม ๆ กัน เธอชื่อ รูบี้ มดแน่ใจว่า รูบี้รู้ว่าตัวเองนั้นเก่ง และรูบี้ก็รู้ว่ามดนั้นก็เก่งไม่แพ้กัน (ในห้องเรียนนั้น) มดเพิ่งเข้ามาเรียนใหม่ได้สัปดาห์เดียว รูบี้นั้นเรียนมาประมาณ 2-3 เดือนได้แล้ว เชื่อว่ารูบี้คงเป็นราชินีในห้องนี้มาตลอดแต่เพียงผู้เดียว

รูบี้เป็นคนเดียวที่ไม่เข้ามาทัก มาพูดคุยกับมดแม้เวลาจะผ่านไปเกือบสัปดาห์แล้วก็ตาม (เธอคุยกับทุกคนเป็นปกติ) จนมดรู้แล้วว่าเจนนี่มีลูก 2 คน อัลมา มีชื่อกลางว่า แอนนา โบลบาน มาจากประเทศ มัสซาโดเนีย ซาบรีน่า เพิ่งฉลองครบรอบ 3 ปีแห่งการแต่งงานไปเมื่อวันพุธ  ฯ แต่มดรู้แค่ว่าเธอชื่อรูบี้ หญิงสาวที่คอยแย่งมดตอบคำถามครู

การมีรูบี้อยู่ในห้อง ทำให้การเรียนของมดไม่ง่ายนัก มดต้องเตรียมตัวก่อนเรียนแต่ละวันมากกว่าปกติ เพราะรูบี้เคยชิงตอบคำถามบางอย่างได้ทั้งที่ยังไม่ได้เรียน แต่ก็หาอ่านได้เพราะมันอยู่ในหน้าถัดไปของหนังสือ มดต้องท่องศัพท์ใหม่ ๆ ในบทนั้นให้ขึ้นใจ นอกจากความหมายของศัพท์แล้ว ยังต้องจำให้ได้ด้วยว่าคำศัพท์ที่เป็นกริยานั้น นำไปใช้อย่างไร (ภาษาเยอรมันซับซ้อนมาก) จากแรก ๆ ที่รู้สึกว่ารูบี้คือตัวยุ่งยาก ที่ทำให้ต้องเหนื่อยมากกว่าปกติ ต่อมากลับกลายเป็นความรู้สึกสนุกที่จะได้แข่งขันกับเจ้าหล่อนซะนี่

ถึงอย่างไรงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาและสงครามก็มีวันพัก เมื่อวันนึงรูบี้เอ่ยถามว่า วันนี้มดจะไปฝึกต่อที่ห้องเทปหลังเลิกเรียนหรือไม่ (ที่โรงเรียนมีห้องที่จะขอเทปมาฝึกทบทวนได้) จากห้องเรียนไปห้องเทป ต้องขึ้นรถเมล์ไป 2 ป้ายและเดินอีก 2 นาที มดตอบตกลง และเราเดินไปขึ้นรถเมล์ด้วยกัน ระหว่างนั้นเองที่เราเริ่มคุยกันด้วยเรื่องง่าย ๆ ว่า เธอมาอยู่ที่นี่กีปีแล้ว พักอยู่ไหน ทำอะไร ฯ มดเพิ่งจะรู้ว่ามีเพียงรูบี้เท่านั้น ที่จะทำให้การพูดของมดพัฒนาขึ้นไปได้ เพราะความสามารถของเราอยู่ระดับเดียวกัน เรารู้และใช้ศัพท์รวมไปถึงไวยกรณ์ได้ถูกพอ ๆ กัน เราพูดกันอย่างสบาย ๆ ช่วยแนะนำในไวยกรณ์ที่ไม่แน่ใจ และศัพท์ที่นึกไม่ถึง

แม้ตอนนี้รังษีอ่อน ๆ แห่งการฟาดฟันจะจางลงไปมากจนแทบจะไม่รู้สึก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราเลิกแย่งกันตอบคำถามครูหรือเลิกจะเป็นคนเก่งของห้อง เรายังคงทำตัวเหมือนเดิม เรายังเป็นคู่แข่งกัน แต่พร้อมกันนั้น เราก็เป็นเพื่อนกันไปด้วย - คู่แข่งคือเพื่อนที่ดี – คิดว่ารูบี้คงเห็นด้วยกับมด 

    

3 Responses to “คู่แข่งคือเพื่อนที่ดี”

  1. เจ๊กอ Says:

    เขียนเล่าได้เห็นภาพมาก นึกถึงสมัยเรียนภาษาปีแรกที่นี่
    โคตรเครียด เพราะดันสอบไปอยู่ห้องเรียนเร็วปรื้ดของโรงเรียน
    ทุกคนในห้องส่วนใหญ่สอบอะไรดันได้คะแนนเต็มและเกือบเต็มกันหมด
    จำได้ช่วงแรกๆเวลาครูหันมาสบตาจะถามเจ๊ทีไร
    รู้สึกว่าหัวใจมันหยุดเต้นไปซะงั้น

    ที่ดีหน่อยคือ ไม่มีใครมาแข่งด้วย เพราะเจ๊เฉื่อยสุดๆ 555
    แต่จะฮึดเป็นช่วงๆ หากรู้สึกโง่ล้าหลังใครเขา
    ยิ่งถ้าสอบแล้วไม่ได้(เกือบ)เต็มแบบคนอื่น จะกลายเป็นคนโง่ที่สุดในชั้นไปเลย
    การเรียนในห้องที่คนเก่งๆ แบบนั้น
    ช่างกดดันและโคตรเหนื่อยจริงๆ

  2. กะ-หนก Says:

    แวะเข้ามาอ่าน มาให้กำลังใจ
    …ขยัน ๆ เข้าล่ะ ^_^

  3. BigBin Says:

    งานเขียนของคุณนี่ผมชื่นชอบจริงๆ

Leave a Reply