Dec 25

ช่วงเวลา 2-3 วันมานี้มดได้รับอีเมล์หลายฉบับที่ส่งมาอวยพรความสุขในเทศกาลคริสต์มาส การได้มาใช้ชีวิตอยู่ในยุโรปทำให้ได้รู้ได้เห็นการให้ความสำคัญของประเพณีวัฒนธรรมนี้ต่างออกไปจากเคย หลังจากที่เข้าใจมาตลอดว่า คริสต์มาสคือช่วงเวลาที่แซนต้า ลุงผู้ชายตัวยักษ์ที่มีหนวดและเคราสีขาวยาวเฟื้อย แต่งตัวด้วยชุดสีแดงแจ๊ด จะออกเดินทางจากขั้วโลกมาพร้อมกับเลื่อนหิมะและกวางเรนเดียร์คู่ใจ บรรทุกถุงสีแดงใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยของขวัญมากมาย แล้วแวะตามบ้านปีนลงไปตามปล่องไฟ เอากล่องของขวัญไปหย่อนไว้ในถุงเท้า … เอ่ออ .. คนที่นี่เค้าไม่ได้เล่าเรื่องคริสต์มาสแบบนั้นน่ะสิ

มดอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รับรู้มาได้หลายปีแล้วว่า วันซานตาครอสนั้น เป็นวันที่ 6 ธันวาคมของทุกปี ซานต้าของที่นี่ก็ยังเป็นลุงอ้วนใจดีใส่ชุดสีแดงเหมือนเดิม แต่ซานต้านั้นอันที่จริงเป็นนักบุญ เรียกกันแบบเต็มยศว่า St. Niclaus (ซังค์ นิเคล้า) บ้านที่มีเด็กเล็ก ก็ยังคงเล่านิทานเรื่องซานต้าว่า หากหนูทำตัวดี มีสิทธิเขียนจดหมายไปขอของขวัญจากแซนต้าได้ทุกปีนะ แล้วก็ดันมีประเพณีเก๋ ๆ ของทางองค์การไปรษณีย์ ที่จะจัดส่งของขวัญให้กับเด็กที่เขียนจดหมายไปหาแซนต้าซะด้วย เพียงแค่จ่าหน้าซองว่า St. Niclaus แล้วอย่าลืมใส่ชื่อที่อยู่ผู้ส่งเท่านั้นเอง ทางไปรษณีย์แจ้งว่า ทุกปีมีจดหมายมาหลายแสน

ซานต้าของที่นี่จะมีลูกสมุนติดตามมาด้วยนอกเหนือไปจากกวางเรนเดียร์ทั้งสี่ สมุนที่ว่านี้ชื่อ ชมุส-ลี่ เป็นชายร่างผอมมีเคราสีเทาแต่งตัวเหมือนลุงซานต้าทุกอย่าง แต่เป็นสีดำ  คุณชมุสลี่จะสะพายถุงใบใหญ่สีดำเหมือนลุงแซนต้า แต่ข้างในไม่ใช่ของขวัญแสนหวานหรอกนะ เพราะคุณชมุสลี่ เป็นคนที่จะจับเด็ก ๆ มาทำโทษถ้าหนูเป็นเด็กไม่ดี ไม่ตั้งใจเรียน และดื้อกับคุณพ่อคุณแม่ – ทำให้เด็ก ๆ จะหวาดกลัวกับคุณชมุสลี่มาก ๆ ซึ่งบางทีคุณชมุสลี่ก็จะมาพร้อมกับฆ้อนพลาสติกคอยตีหัวเด็กซน ๆ เซี้ยว ๆ

วันคริสต์มาสตามศาสนาคริสต์นั้น อันที่จริงคือวันประสูตรของพระเยซู ซึ่งในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เดินไปทางไหนก็จะได้เห็นการจัดแสดงโมเดลเล็กบ้างใหญ่บ้าง เป็นเรื่องเล่าในโรงนาตอนที่พระเยซูประสูตร จะมีตุ๊กตาพระแม่มารี กำลังอุ้มเด็กน้อย ซึ่งก็คือพระเยซู และก็มีโจเซฟยืนข้าง ๆ แล้วก็มีบรรดาสัตว์โผล่หน้าเข้ามาเช่น ลา ม้า อูธ แกะ บางที่ก็จะมีตุ๊กตาของกษัตริย์ทั้งสาม ที่ในตำนานเล่าว่า เดินทางมาถวายความเคารพกับพระเยซู หลังจากเห็นปรากฎการณ์ดาวตกและรับรู้ว่าจะมีผู้มีบุญมาเกิด

มีหลาย ๆ เรื่องที่ปีนี้มดได้รับรู้เพิ่มเกี่ยวกับคริสต์มาส ที่มดอยากบันทึกไว้

1. อันที่จริงพระเยซูประสูตรในหน้าร้อน เพิ่งจะมาย้ายวันคริสต์มาสมาอยู่ในเดือนธันวาวันที่ 25 ก็เมื่อประมาณ 200 ปีที่แล้วนี้เอง

2. การประดับต้นคริสต์มาสในช่วงนี้ ทำให้มีการขายต้นคริสต์มาสจริงต้นเล็ก ๆ เพื่อนำไปประดับในบ้าน ซึ่งมันมีที่มาจาก การปลูกป่าของที่นี่  คนสวิสนิยมใช้ไม้สนเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องทำความร้อน จึงมีการตัดต้นสนเป็นจำนวนมาก ตามกฎหมายคือหากตัด 1 ต้น ต้องปลูกทดแทน 5 ต้น เมื่อต้นสนเติบโตขึ้นมา ในช่วงฤดูหนาว ก็จะต้องตัดต้นที่เกินจำเป็น เหลือต้นที่แข็งแรงและดีไว้ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารกัน ต้นสนเบบี้จะถูกตัดช่วงต้นเดือนธันวา และนำออกขาย เพื่อประดับบ้าน

3. ช่วงเทศกาลคริสต์มาส จะเป็นช่วงที่มีการเฉลิมฉลอง และดื่มกันมาก กฎหมายเรื่องเมาห้ามขับของที่สวิสเข้มงวด จึงมีองค์กรไม่หวังผลกำไร รับสมัครผู้ที่อาสามาขับรถให้คนเมา ส่วนคนที่จะไปเมา ก็มาลงชื่อขอคนขับรถพาไปส่งบ้านได้ล่วงหน้า โดยแจ้งว่า จะให้ไปรับตอนกี่โมง ที่ไหน ยังไง ที่สำคัญคือฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยนะ – ซึ่งมดแอบสงสัยว่า ทำไมต้องไปขับให้พวกคนเมาพวกนี้ด้วย คุณอ้วนบอกว่า เราทำเพื่อคนที่ไม่เมา จะได้ไม่เกิดอันตรายจากคนพวกนี้ไง – นี่เป็นตัวอย่างของสังคมที่เจริญแล้ว

4. ช่วงเทศกาลนี้อีกเหมือนกัน ที่จะมีคนฆ่าตัวตาย เพราะแทนที่จะได้เฉลิมฉลองกับครอบครัว แต่ไม่มีครอบครัวแล้ว หรือหดหู่ต้องอยู่ตัวคนเดียว เศร้าหมอง โดดเดี่ยว อันดับที่ฮิตมากคือขึ้นไปยังที่สูง ๆ แล้วโดดลงมา ก็มีองค์กรไม่หวังผลกำไรอีก ที่มารับสมัครอาสา เฝ้าที่สูง คือคุณจะต้องไปเป็นยามนั่งเฝ้าที่สูง ๆ ที่คนฮิตจะไปโดดฆ่าตัวตาย ไปก่อไฟต้มน้ำ มีของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ หากเหยื่อผู้ต้องการสละชีพผ่านมา ก็ต้องชวนคุยให้เค้าคลายเศร้า ชวนดื่ม และกลับไปมีชีวิตปกติหลังจากเทศกาลนี้ – มดเห็นด้วยนะ เพราะคิดมาตลอดว่า คนที่ฆ่าตัวตายคือคนที่ไม่มีเพื่อน หากได้เพื่อนคุยในจังหวะนั้น ความคิดอาจจะเปลี่ยนไป – เป็นอีกตัวอย่างของสังคมที่เจริญแล้ว

ขอบบันทึกไว้แค่นี้ก่อน 
Merry Christmas

Mod-x

3 Responses to “Merry Christmas”

  1. เจ๊แก้ว Says:

    เห็นด้วยว่า พอมาอยู่ดินแดนที่เขาเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสจริงๆจังๆ
    มันมีแง่มุมของคริสต์มาสที่ซ่อนความหมายกว่าสมัยที่เราดูจากทีวีเนอะ

    ขอบคุณที่เล่าเรื่องแง่มุมฝั่งสวิสให้อ่าน
    เรื่องคนฆ๋าตัวตายช่วงนี้ สะเทือนใจมาก
    เดี๋ยวปีใหม่ตายกันอีก ปาระเบืดดอกไม้ไฟกันเข้าไป

  2. แม่พลอย Says:

    ทางอเมริกา ไมเคิลบอกเราว่า ในทางคริสตจักร ไม่นับว่า St. Niclaus หรือ ซานตาครอสเป็นเซนต์ หรือนักบุญแล้ว เพราะไม่มีจริง จะเรียกว่าเป็นเรื่องเล่า แนว ๆ fairy tale มากกว่า

    เพราะในการจะประกาศให้ใครได้เป็นเซนต์ในทางคริสตจักรใช้เวลาในการพิสูจน์นานมากและบุคคลนั้นต้องมีตัวตนจริง บางคนตายไปแล้วหลายร้อยปีเพิ่งประกาศให้เป็น เซนต์ อย่าง โยน ออฟ อาร์ค อะไรแบบนี้

    ที่นี่หนักไปทาง เศรษฐกิจ ประชาชนเครียด ๆ วันคริสมาสต์ข่าวมีแต่เสนอว่าร้านค้าขายของได้น้อย เพราะปกติแล้วจะเป็นช่วงทำเงิน เพราะคนอเมริกันจะเริ่มจับจ่ายซื้อของฝากของขวัญกันเยอะ หลักจาก Thanks giving.

  3. กะ-หนก Says:

    เรามองว่ามันเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อให้เกิดความอบอุ่น ให้ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา มีความสุข สนุกสนาน ท่ามกลางหิมะ และความหนาวสุด ๆ ของปีในช่วงนี้

    แบบเดียวกับที่บ้านเรามีวันสงกรานต์นั่นแหละ

    …Merry X’ Mas & หวัดดีปีใหม่ ^_^

Leave a Reply